สำหรับสายบุฟเฟ่ต์ ที่ชอบกินเร็ว กินด่วน กินเร็ว กินหนัก ทั้งของคาว ของหวาน  รวมไปถึงผลไม้ ในมื้อเดียว หลังจากอิ่มแบบเต็มที่ แล้วอาการท้องอืดท้องเฟ้อถามหา นอนไม่ได้ อึดอัด จนบางทีต้องหาวิธีเอาออกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง วันนี้เรามีสาระดี ๆ เคล็ดลับลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ หลังจากกินบุฟเฟ่ต์มาแบบเต็มคาราเบล ด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน มาฝากกัน 
อาการท้องอืดท้องเฟ้อ เกิดขึ้นได้อย่างไร 

     กลุ่มคนไทย คือ การกินอาหารที่ย่อยยาก กินอาหารที่มีฤทธิ์เย็นจัด อาทิ ของดิบ น้ำเย็น น้ำแข็ง ไอศกรีม รวมไปถึงการกินอาหารในปริมาณที่เยอะเกินไป จนทำให้กระเพาะอาหาร ม้าม ที่ทำหน้าที่ย่อยและดูดซึมอาหารไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทำงานหนักเกินไป ส่งผลให้เกิดการอัดอั้นคั่งค้างของ “ชี่” หรือ ลมปราณ ส่งผลให้เกิดอาการแน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีลมอยู่ภายในท้องมากเกินไป  
     วิธีลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ แบบฉบับแพทย์แผนจีน  สำหรับวิธีลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ตามแบบแพทย์แผนจีนที่เราจะมาแนะนำ ก็คือ
     1.จิบชาซานจา “ซานจา” ในนามผลไม้รสเปรี้ยวหวานของจีน นิยมนำมาเคลือบน้ำตาลเสียบไม้เรียกว่า “ถังหูหลุ” กินอร่อยกินเพลินในฤดูหนาว ซานจานั้นมีฤทธิ์อุ่นรสเปรี้ยวหวาน เข้าสู่ลมปราณม้าม กระเพาะอาหาร และตับ มีสรรพคุณช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร เพิ่มน้ำย่อยและขับลมภายในกระเพาะอาหาร ซานจามีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดได้ โดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจ จึงช่วยลดความดันโลหิตและลดไขมันในเลือดได้ด้วย นอกจากนี้ แพทย์จีนโบราณยังใช้ซานจาช่วยขับพยาธิด้วย ในปัจจุบัน แพทย์จีนมักนำซานจามาใช้กระตุ้นความอยากอาหารในผู้สูงอายุ ช่วยย่อยในผู้ที่มีอาการแน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ และใช้ในผู้ที่ต้องการลดไขมันในร่างกายด้วย วิธีรับประทาน  นำซานจาอบแห้ง (หาซื้อได้ตามร้านขายยาสมุนไพรจีน หรือห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปในแผนกอาหารแห้ง) มาชงเป็นชา โดยใช้ซานจา 1-2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำร้อน 1-2 ลิตร จิบได้ทั้งวัน 
    2.ลูบท้องช่วยย่อย  การนวดทุยหนา หรือการนวดแบบจีนช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ให้รู้สึกสบายตัวมากขึ้นได้ทันที โดยมีวิธีการทำที่ไม่ยาก คือ ใช้มือด้านที่ถนัดนวดวนรอบ ๆสะดือในทิศตามเข็มนาฬิกาโดยออกแรงกดเพียงเล็กน้อย ประมาณ 5-10 นาที ความอุ่นของมือและแรงที่กดลงไปบริเวณนั้นจะช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ทำให้ย่อยและดูดซึมอาหารได้ดีขึ้น โดยทั้งสองวิธีนี้ เป็นวิธีที่ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ จากการกินอาหารในปริมาณเกินไปได้เป็นอย่างดี แต่เราแนะนำว่า ควรกินอาหารสุก สะอาด ในปริมาณที่พอเหมาะ เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน และไม่กินไปดื่มน้ำไป เพื่อดูแลรักษาให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานได้อย่างปกติ มีประสิทธิภาพได้อย่างยาวนาน
(ที่มาข้อมูล อ.พจ.อรภา  ศิลมัฐ)